บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

พระประยุทธ์ตัวบิดเบือน

หลังจากที่ คุณ swinger ที่ชอบ swinging ยอมแพ้คุณสมาชิกหมายเลข 769319 อย่างไม่มีเงื่อนไขไปแล้ว  ประเด็นถกเถียงระหว่าง 2 คน นั้นก็จบไป

แต่ผมยังไม่จบ.......... เพราะ ผมอยากจะรู้ว่า คุณ swinger ที่ชอบ swinging ไปเอาความรู้ที่ว่า ตาเห็นได้แต่รูป  ตาเห็นธรรมไม่ได้ นั้นมาจากไหน

สมองหมา ปัญญาควายแบบคุณ swinger ที่ชอบ swinging คงคิดเองไม่ได้หรอก

อย่างนั้นก็ต้องอาศัยกูเกิ้ล  ไปเจอที่วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี  แต่ข้อมูลของวิกิพีเดียนั้น จะอ่านแล้วเข้าใจ ก็ต้องอ่านข้อมูลของพระพรหมคุณาภรณ์/พระธรรมปิฎก/พระประยุทธ์กันเสียก่อน

ในเว็บพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ เมื่อค้นคำว่า “จักษุ” ก็มีผลของการค้นพบ 17 ตำแหน่ง  เลือกมาเฉพาะที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

1) จักษุ ตา, นัยน์ตา

2) จักษุทิพย์ ตาทิพย์ คือดูอะไรเห็นได้หมด ดู ทิพพจักขุ

3) จุตูปปาตญาณ ปรีชารู้จุติและอุบัติของสัตว์ทั้งหลาย,
       มีจักษุทิพย์มองเห็นสัตว์กำลังจุติบ้าง กำลังเกิดบ้าง มีอาการดีบ้าง เลวบ้างเป็นต้น ตามกรรมของตน เรียกอีกอย่างว่า ทิพพจักขุ

4) ดวงตาเห็นธรรม แปลจากคำว่า ธรรมจักษุ หมายถึง ความรู้เห็นตามเป็นจริง ด้วยปัญญาว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับเป็นธรรมดา;

ข้อ 1 -3 จักษุแปลว่า ตา แล้วมีหน้าที่คือ “เห็น”  แล้วทำไม พอถึง ข้อที่ 4 พระรูปนี้ ถึงเขียนว่า “ธรรมจักษุ หมายถึง ความรู้เห็นตามเป็นจริง ด้วยปัญญา

ถ้าสัตย์ซื่อกันจริงๆ ก็ต้องแปลว่า “เห็น” จะไปแปลผิดเพี้ยนเป็น “ความรู้เห็น” ทำไม 

คำว่า “ความรู้เห็น......ด้วยปัญญา” นั้น  มันหมายถึง “เข้าใจ” (understanding) ตามหลักวิชาการ  ไม่ใช่ “เห็นตามหลักศาสนาพุทธ”  

ขอยกตัวอย่างความบิดเบือนของพระรูปนี้ อีกสักเล็กน้อย

6) ทิพพจักขุ จักษุทิพย์, ตาทิพย์, ญาณพิเศษของพระพุทธเจ้า และท่านผู้ได้อภิญญาทั้งหลาย ทำให้สามารถเล็งเห็นหมู่สัตว์ที่เป็นไปต่างๆ กันเพราะอำนาจกรรม เรียกอีกอย่างว่า จุตูปปาตญาณ

ข้อให้ดูความไม่ชอบมาพากลของการอธิบายของพระรูปนี้  ที่จะแปลเน้นที่ลงความหมายของคำว่า “ญาณ” 

“ญาณ” นั้นเป็นว่า “รู้”   “จักษุ” นั้นแปลว่า “ตา”  การรู้ในทางศาสนาพุทธต้องใช้เครื่องมือคือ “ตา” ก่อน  คือ เห็นก่อนรู้ หรือทั้งเห็นทั้งรู้เกิดขึ้นพร้อมกัน

พระรูปนี้ ไม่ยอมแปลว่า “เห็น”  ตีความมั่วไปเลยว่า “ญาณ” รู้อย่างเดียว เพื่อจะมั่วตีความต่อเป็น “เข้าใจ” (understanding) ตามหลักวิชาการ

7) ทิพยจักษุ ตาทิพย์, ญาณพิเศษที่ทำให้ดูอะไรเห็นได้หมดตามปรารถนา

นี่ก็เห็นชัดๆ ว่าพยามยามบิดเบือน  ตาทิพย์ก็คือ ตาทิพย์  ก็แปลง่ายๆ ว่า เป็นตาของกายละเอียด สามารถดูสิ่งใดก็ได้ ทั้งใกล้และไกลตามปรารถนา

ธรรมจักษุ ดวงตาเห็นธรรม คือ ปัญญารู้เห็นความจริงว่า สิ่งใดก็ตามมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งปวง ล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา;

ธรรมจักษุโดยทั่วไป เช่น ที่เกิดแก่ท่านโกณฑัญญะเมื่อสดับธรรมจักร ได้แก่ โสดาปัตติมรรคหรือโสดาปัตติมรรคญาณ คือ ญาณที่ทำให้เป็นโสดาบัน

น่าน......... ดวงตาเห็นธรรม กลายเป็น “ปัญญารู้เห็น” ไปเสียแล้ว  พอมาถึงตรงนี้ ผมคิดว่า แกคงโง่ และคิดว่าตัวเองฉลาด เลยทั้งโง่และบิดเบือน 

ดวงตาเห็นธรรมของท่านโกณทัญญะ ก็มั่วว่า “ญาณที่ทำให้เป็นโสดาบัน”  โง่จริงๆ

ธรรมะทุกหัวข้อธรรมะเป็นดวง  ดังนั้น เราจึงเรียกว่า “ดวงธรรม”  ดวงธรรมดวงแรกที่เราจะเห็นก็คือ ดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน หรือดวงปฐมมรรค

และเขาเห็นกันแบบนี้


สงสัยก็ไปตามถามเด็กนักเรียน นักศึกษา ครูอาจารย์ที่อยู่ในเหตุการณ์เอาเอง 






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น