มาว่ากันต่อ
ประเด็นที่เกี่ยวเนื่องมาจากกระทู้ “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา” ของคุณสมาชิกหมายเลข
769319 ซึ่งเอาบล็อกของผมไปเผยแพร่ต่อ
หลังจากที่คุณสมาชิกหมายเลข
769319 ถามว่า “เห็นด้วยญาณปัญญา มันเป็นอย่างไร? อธิบายหน่อยได้หรือเปล่า”
และคุณ
swinger ที่ชอบ swinging ตอบมาว่า
"เห็นด้วยญาณปัญญา" หมายถึงความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง
อย่างสิ้นสงสัยในพระสัทธรรมนั้น ไม่ใช่เห็นด้วยตา ตาเห็นได้แต่รูป ตาเห็นธรรมไม่ได้ครับ
คุณสมาชิกหมายเลข
769319 ก็ตอบมาดังนี้
คุณ swinger
ที่คุณเขียนว่า
"ตาเห็นได้แต่รูป
ตาเห็นธรรมไม่ได้ครับ"
ผมว่าคุณเพี้ยนไปสุดกู่แล้ว ข้อความที่ว่า
"ดวงตาเห็นธรรมอันปราศจากธุลี ปราศจากมลทิน"บ้าง
"ธรรมจักษุอันปราศจากธุลี ปราศจากมลทิน" บ้างนั้น ก็ต้องใช้ตาเห็น
ถ้าคุณบอกว่า
"ตาเห็นธรรมไม่ได้" ก็เลิกคุยกันเถอะครับ
คุณจะเอาผิวหนังไปเห็นหรือไง
ในทางวิชาธรรมกาย กายมี 18
กาย แต่ละกายก็มีตาทั้งนั้น การเห็นธรรมนั้น เห็นด้วยตาของธรรมกาย
คุณบอกว่า
"ตาเห็นธรรมไม่ได้" ก็ไปตามทางของคุณเถอะ เสียเวลาที่จะเสวนากัน
หลังจากตัดสวาทขาดอีโต้กันแล้ว คือ ประกาศเลิกเสวนากันแล้ว คุณสมาชิกหมายเลข
769319 ก็ยังเอาวิดิโอที่ผมสอนเด็ก แล้ว upload ไว้ที่ you tube มาเป็นหลักฐานอีก ดังนี้
ขอให้ดูการสอนนี้อีกครั้งหนึ่ง
เป็นการสอนให้เด็กมีดวงตาเห็นธรรมตามวิชาธรรมกาย
วิชาของคุณทำได้เแบบนี้หรือไม่
มีหลักฐานที่ชัดเจนอย่างเป็นวิทยาศาสตร์แบบนี้หรือไม่
หรือ "อ่าน"
แล้วก็ "เดา" เอา
ผมขอยืนยันว่า
การสอนเด็กนักเรียนนักศึกษาของผมนั้น เด็กเห็นดวงธรรมจริง เห็นกายธรรมจริง
กายเห็นธรรมก็คือ
การเห็นกายในกายของตัวนักเรียนเอง
การเห็นกายในกายแบบนี้
ไม่มีสาวกพระพม่าคนไหน ที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้อย่างเป็นวิชาการ
อย่างที่ผมทำ
นอกจากนั้นแล้ว
ผมยังสอนให้เด็กกายในกาย ณ ภายนอกอีกด้วย
คือ สอนให้เห็นกายในกายของผมเอง
เด็กเห็นและวาดรูปมาให้ดูด้วย
กรณีนี้
ผมฟันธงเลย ทั้งโลกก็ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้เป็นวิชาการอย่างที่ผมทำ
เจอหลักฐานอย่างแน่นหนาเข้าไปอย่างนั้น
คุณ swinger ที่ชอบ swinging ก็ตอบมาว่า
เรียนท่านสมาชิกหมายเลข
769319
ผมก็ขอยอมแพ้ท่านแล้ว
ขอให้ท่านเจริญยิ่งๆ ในธรรมครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น